เรเว่ ออโตโมทีฟ เสริมแกร่งเปิดศูนย์อะไหล่-ตรวจสภาพรถมือสอง

เรเว่ ออโตโมทีฟ มุ่งสร้างความมั่นใจด้วยความพร้อมคลังอะไหล่ครบครัน การันตีการส่งมอบอะไหล่ถึงศูนย์บริการทันท่วงทีทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างแบรนด์สร้างคุณค่ารถมือสองสู่ความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคชาวไทยเปิดบริการ ‘RÊVER Inspected’ ตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้า BYD ประเมินราคาส่งต่อในตลาดรถยนต์มือสอง

 

8 สิงหาคม 2566 : เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มุ่งมั่นยกระดับประสิทธิภาพการบริการลูกค้าด้วยความพร้อมสูงสุดในการส่งมอบอะไหล่ ณ RÊVER BYD Spare Parts Center คลังอะไหล่ที่มีความจุกว่า 200,000 ชิ้น หรือประมาณ 2,500 พาเลท ที่สามารถตอบสนองความต้องการเฉลี่ย 4-7 เดือน ครอบคลุมชิ้นส่วนทุกชิ้นสำหรับรุ่น BYD ATTO 3 และอะไหล่สำหรับรุ่น BYD Dolphin กำลังทยอยเข้ามาและจะครอบคลุมทุกชิ้นส่วนในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ด้วยขนาดพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ภายในคลังอะไหล่แบ่งพื้นที่จัดเก็บอย่างชัดเจน ได้แก่ โซนชิ้นส่วนทั่วไป โซนชิ้นส่วนอุบัติเหตุ และโซนชิ้นส่วนซ่อมบำรุง โดยชิ้นส่วนสำคัญอย่าง Blade Battery และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ จะถูกจัดเก็บเป็นพิเศษในห้องควบคุมความเย็นและความชื้นมาตรฐานสูง

นอกจากนี้ เพื่อรองรับรถยนต์ BYD รุ่นใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต ประกอบกับความต้องการที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เดินหน้าสร้างคลังอะไหล่แห่งใหม่พื้นที่ขนาด 18,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าปัจจุบันถึง 4.5 เท่า พร้อมความสามารถในการรองรับอะไหล่สูงสุด 1,000,000 ชิ้น ในพื้นที่บางนา-ตราด ให้เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าถึงผู้จัดจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ ภายในเวลา 1-4 วัน โดยคลังอะไหล่แห่งใหม่นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2567

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า “เรามีความภูมิใจที่ได้นำเสนอบริการที่ครอบคลุมมากกว่าการขายรถยนต์ คลังสินค้าของเรามีอะไหล่สำรองครบครัน เพื่อรับประกันว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและให้ลูกค้าสามารถนำรถกลับไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ในฐานะที่เราเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง เรามุ่งเน้นที่จะเป็นศูนย์กลางของทุกความต้องการสำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า และการเปิดตัวคลังอะไหล่แห่งใหม่จะช่วยยกระดับการดำเนินงานและพัฒนาบริการให้คล่องตัวขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอะไหล่ทดแทนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”

เพื่อเป็นแนวทางในความมุ่งมั่นให้บริการหลังการขายกับลูกค้าแบบครบวงจร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ยังเปิดตัวโปรแกรม ‘RÊVER Inspected’ ที่ให้บริการตรวจสอบและประเมินสภาพรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในทุกด้าน ทั้งสภาพทั่วไป สภาพเทคนิค ที่รวมถึงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจและได้รับความสะดวกสบายในการส่งต่อรถในตลาดรถยนต์มือสองในราคาที่เหมาะสมและผู้ซื้อได้รับรถที่ได้มาตรฐานพร้อมใช้งานทันที โดย บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ถือได้ว่าเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ออกแบบการให้บริการตรวจสภาพพร้อมประเมินประสิทธิภาพแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โปรแกรม ‘RÊVER Inspected’ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Drive ON’ ที่มุ่งให้บริการในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างความมั่นใจและความสะดวกสบายให้ลูกค้า

บริการตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้าของ เรเว่ มีจุดเด่นในการประเมินสภาพ Blade Battery ที่สามารถชาร์จไฟได้มากกว่า 5,000 ครั้ง หรือกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ประสิทธิภาพการใช้งานระยะเวลายาว ไม่ว่ารถยนต์จะมีระยะวิ่งมากน้อยเพียงใด หรือผ่านการใช้งานนานหลายปี โดยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่มีมูลค่าและมีความสำคัญสูงสุดต่อการกำหนดราคาเพื่อการขายต่อในตลาดรถมือสอง ซึ่งบริการนี้รวบรวมการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ (SoH) และ แบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery) ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

โปรแกรม ‘RÊVER Inspected ประกอบไปด้วย

 

1.การประเมินด้านเทคนิคด้วยเครื่องมือพิเศษของ BYD รวม 43 รายการ ประกอบไปด้วย การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ (SOH), ระบบการจัดการแบตเตอรี่ (BMS), แรงดันแบตเตอรี่รวม (สูงสุด-ต่ำสุด), สถานะการชาร์จ (SOC), โมดูลซ้าย–ขวา-หลัง, โมดูลควบคุมโดเมนพลังงาน, ระบบแรงดันลมยาง (TPMS), คอมเพรสเซอร์ A/C, โมดูลควบคุมกำลังมอเตอร์ (MPC), เซนเซอร์จุดบอด, ตัวแปลงไฟฟ้า AC-DC, ชาร์จเจอร์บนบอร์ด, โมดูลตัวเพิ่มพลังงานอัจฉริยะ (IPB), โมดูลถุงลมนิรภัย, โมดูลชาร์จไร้สาย, โมดูลควบคุมเกียร์เรือ, โมดูลความถี่สูง เป็นต้น

2.การประเมินอุปกรณ์มาตรฐานและประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ BYD ประกอบไปด้วย การตรวจสอบเอกสารสำคัญ เช่น เอกสารและคู่มือการรับประกัน, สมุดคู่มือการใช้งาน, เล่มทะเบียนและป้ายภาษี, การ์ด SD, กุญแจรีโมท, การ์ด NFC และรายละเอียดการบำรุงรักษาตามระยะเวลาหรือระยะทาง

3.การประเมินสภาพรถยนต์ทั่วไป รวม 98 รายการ ประกอบไปด้วย การตรวจลักษณะภายนอกและโครงสร้างรถ 20 รายการ, รายละเอียดภายใน 29 รายการ, การตรวจใต้ท้องรถและระบบขับเคลื่อน 37 รายการ, การทำงานของอุปกรณ์ทั่วไป 12 รายการ

“เราภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทแรกในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยที่นำเสนอการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความทนทานและประสิทธิภาพที่ยั่งยืนของนวัตกรรมแบตเตอรี่ BYD และความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความไว้วางใจผ่านการดำเนินงานที่โปร่งใส เราไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แต่เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการบริการเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า” นายประธานวงศ์ กล่าวเสริม

 

โปรแกรม ‘RÊVER Inspected’ จะดำเนินการโดยทีมวิศวกรมืออาชีพของ เรเว่ ออโตโมทีฟ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่ารถยนต์ไฟฟ้า BYD ในท้องตลาดได้รับการรองรับด้วยมาตรฐานสูงสุด บริการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ารถยนต์ไฟฟ้า BYD พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน พร้อมมอบความคุ้มค่าที่ยั่งยืน ให้ทุกกิโลเมตรของเส้นทางการขับขี่เต็มไปด้วยความมั่นใจ โดยมี เรเว่ ออโตโมทีฟ เป็นเพื่อนร่วมเดินทางในทุกกิโลเมตร

 

*สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ RÊVER Care สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.reverautomotive.com/ พร้อมติดตามทุกความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารได้ที่ FB: BYDReverThailandOfficial  / IG: bydreverthailand

 

อนึ่ง บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด  ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยในเดือนมิถุนายน 2565 บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้เริ่มแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่นแรก โดยการนำ BYD ATTO 3 เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลามในสิ้นปี 2565 ทำให้ปัจจุบันมียอดจำหน่ายและส่งมอบ BYD ATTO 3 มากกว่า 15,000 คัน นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเป็นปีแรก ได้สร้างปรากฏการณ์เป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนในกลุ่มนี้มากที่สุดในครึ่งหลังของปี 2566 บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานและบริหารการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มรถยนต์นั่งแบรนด์ BYD แต่เพียงผู้เดียว บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะนำยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ (NEV: New Energy Vehicle) เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เข้ามาให้ผู้ขับขี่ในประเทศไทยได้ใช้งานเพื่อให้ประเทศมีสภาพแวดล้อมที่มีอากาศที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นยานพาหนะที่มีความประหยัดเป็นเลิศ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

Visitors: 5,034,976